“แรบบิท แคร์” แพลตฟอร์มนายหน้าประกันภัย ประกาศแผนธุรกิจปี 65 เล็งโกยเบี้ยประกันภัย 3 พันล้านบาท จากปี 64 อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท ชู “ประกันรถยนต์-สุขภาพ-ชีวิต” พร้อมดันเบี้ยเพิ่มเป็น 5 พันล้านบาทภายใน 2-3 ปี
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 นายไมเคิล มันเฟรด สไตลเบิล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน “แรบบิท แคร์” เป็นแพลตฟอร์มนายหน้าประกันภัยที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย โดยเบี้ยประกันภัยเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 700 ล้านบาทในปี 2563 เป็น 1,900 ล้านบาทในปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้น 166% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะเดียวกันบริษัทได้มีทีมงานเติบโตจาก 300 คน เป็น 700 คน
โดยเป้าหมายธุรกิจในปี 2565 บริษัทยังคงตั้งเป้าการเติบโตเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท โดยจะเติบโตมาจาก 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.การขยายประกันภัยรถยนต์ให้มีกระบวนการที่ง่ายและสะดวก 2.ประกันสุขภาพที่ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบได้ และ 3.ขยายตลาดผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce
โดยปัจจุบันสัดส่วนช่องทางการขายหลักกว่า 90% ยังมาจากเทเลเซลล์ และอีก 10% ออนไลน์ โดยบริษัทตั้งเป้าปีนี้สัดส่วนการขายผ่านช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 20-25% ภายหลังจากบริษัทมีการพัฒนาระบบ CareOS เข้ามาช่วยกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าภายใน 2-3 ปี ต้องการเพิ่มยอดเบี้ยประกันภัยเป็น 5,000 ล้านบาท และเป้าหมายขยับสัดส่วนส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ภายในอีก 10 ปี ข้างหน้าเพิ่มเป็น 5-10% จากปัจจุบันมีสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์เพียง 1% เนื่องจากบริษัทยังคงเป็นบริษัทขนาดเล็ก
โดยกลยุทธ์จะไปสู่เป้าหมายดังกล่าว จะเน้นขยายตลาดเบี้ยประกันสุขภาพที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากตลาดประเทศไทยมีสัดส่วนการถือครองประกันสุขภาพไม่ถึง 5% ของจีดีพี จึงเป็นโอกาสที่ แรบบิท แคร์ ที่ขยายการเติบโต
“เป้าหมายเบี้ยประกันภัย 3,000 ล้านบาท จะมาจากประกันรถยนต์เป็นหลัก เนื่องจากลูกค้ายังคงต่ออายุประกัน รองลงมาจะเป็นประกันสุขภาพ PA และประกันชีวิตที่มีเสนอประเภทสะสมทรัพย์ โดยเป้าหมายระยะยาวต้องการจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ให้มากขึ้น
โดยการขยายตลาดเวียดนามและอินโดนีเซีย และไทยที่มีศักยภาพ โดยคีย์หลักยังคงเป็นประกันสุขภาพ และมีโปรดักต์ที่ครอบคลุมทางด้านการเงิน โดยปัจจุบันรายได้ประมาณ 30% ของรายได้ทั้งหมด จะมาจากการแนะนำ และรายได้ที่มาจากเบี้ยประกันตรงประมาณ 70%”
นายโจฮันเนส ฟริดริค วอน โรห์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด กล่าวว่า ผลการดำเนินในปี 2564 แรบบิท แคร์ มีเบี้ยประกันภัยเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 700 ล้านบาทในปี 2563 เป็น 1,900 ล้านบาทในปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้น 166% เมื่อเทียบเป็นรายปี
โดยประกันภัยรถยนต์ มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 212% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งแบบออร์แกนิกและจากการเข้าซื้อกิจการของโบรกเกอร์ Asia Direct โดยได้รวมตัวแทนที่ได้รับการฝึกอบรมกว่า 150 คน และทีมบริหารที่มีประสบการณ์ เพื่อรองรับการเติบโต ส่วนด้านการประกันสุขภาพ เติบโตขึ้น 261% เมื่อเทียบเป็นรายปี รวมถึงด้านการประกันภัยองค์กร มีอัตราการเติบโต 63% ต่อปี
นอกจากนี้ แรบบิท แคร์ ยังได้สร้างการรับรู้แบรนด์ด้วยแผนการสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา โดยเตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาครั้งแรก ครอบคลุมทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ภายใต้แนวคิดเรียบง่าย สื่อถึงการดูแลและให้การสนับสนุนลูกค้าด้วยความห่วงใย เพราะทุกครอบครัวมีสมาชิกที่เป็นผู้นำในการดูแลครอบครัว แรบบิท แคร์ ขอยกตำแหน่งให้บุคคลที่คอยทำหน้าที่จัดการเรื่องการประกันภัยและการเงินสำหรับครอบครัวเหล่านี้ เป็น Chief Family Officer หรือ CFO
โดย แรบบิท แคร์ จะขออาสาทำหน้าที่ช่วยแบ่งเบาภาระและอยู่เคียงข้าง CFO เพื่อช่วยดูแลด้านประกันภัยและการเงินให้กับทุกคนในครอบครัว ตอกย้ำการเป็นบริษัทชั้นนำด้านประกันภัยและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เข้าใจและห่วงใยลูกค้าทุกคน ตามสโลแกน “ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ” โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านทางทีวี สื่อนอกบ้าน ทางวิทยุ และออนไลน์
“อย่างไรก็ตาม แรบบิท แคร์ เข้าใจถึงความท้าทายที่ลูกค้าต้องเผชิญจากสถานการณ์โควิด-19 และต้องการทำให้ผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการเงินเข้าถึงได้ง่ายขึ้น จึงได้จัดโปรโมชันด้วยข้อเสนอสุดคุ้ม ให้ลูกค้าได้ประหยัดสูงสุด 70% และ “ซื้อเลยจ่ายทีหลัง” กับโปรโมชัน ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ตลอดจนเพื่อให้ผู้บริโภคได้มีตัวเลือกที่หลากหลาย จากแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมครบวงจร ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลา ประหยัดทั้งเงิน ตลอดจนสามารถมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านราคาคุ้มค่าสูงสุด”
นายชยพัทธ์ สกุลร่มโพธิ์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเชิงพาณิชย์ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ลงทุนงบประมาณหลักสิบล้านบาทในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ CareOS หรือ ระบบปฏิบัติการความแคร์ มีจุดเด่นในการทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่ออัตโนมัติกับระบบของพันธมิตร ช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาดีลดีๆ และเปรียบเทียบข้อมูลด้านประกันและการเงินต่างๆ ได้ครบจบในที่เดียว มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง
ซึ่งระบบปฏิบัติการนี้เป็นกลไกสำคัญที่เข้ามาช่วยลดความซับซ้อนของขั้นตอนต่างๆ ทำให้การใช้งานผ่านแพลตฟอร์มของ แรบบิท แคร์ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และต่อไปจะมีการพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มขึ้น เช่น ให้ลูกค้าสามารถเช็กสถานะกรมธรรม์ของลูกค้า เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังคงดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรชั้นนำมากกว่า 70 บริษัท โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งตอบสนองทุกความต้องการ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค ตอกย้ำสโลแกน “ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ” (Complete Care) ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สโลแกนเท่านั้น แต่ แรบบิท แคร์ ยังให้ความสำคัญและแคร์ผู้บริโภคผ่านการบริการด้านต่างๆ
รวมถึงลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านแรบบิท แคร์ จะได้รับสิทธิพิเศษกับบริการหลังการขายแบบครบวงจรบนแพลตฟอร์มออมนิแชแนล ที่พร้อมให้บริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์เพื่อรับความคุ้มค่าที่พิเศษกว่าที่เคย
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance